ศิลปได้แก่ หัตถโกศล คือความฉลาดในหัตกรรม
ความศึกษาอันเป็นเหตุเจริญวิทยาความรู้ ความฉลาด อันไม่เกี่ยวกับวิชาช่าง เรียกพาหุสัจจะ
ส่วนความศีกษาอันเป็นส่วนวิชาช่าง เรียกว่าศิลปในสิปปกถา แห่งธรรมนิติ ได้รวมวิชา 18 อย่างว่าเป็นศิลปอันได้แก่
- วิชาฟังเสียงคน สัตว์ รู้ว่าดีหรือร้าย
- วิชาเข้าใจในระเบียบ
- วิชาคำนวณ
- วิชาการช่าง
- วิชาแบบแผนราชการ
- วิชาการค้า
- วิชาระบำ
- วิชากายบริหาร
- วิชาสำแดงแผลงธนู
- วิชารู้เลห์กโลบาย
- วิชาโบราญคดี
- วิชาการแพทย์
- วิชากาพย์ตำนาน
- วิชาดาราศาสตร์
- วิชาพิชัยสงคราม
- วิชาพูด
- วิชาร่ายมนต์
- วิชาไวยากรณ์
ศิลปนี้ทางพระพุทธศาสนา จัดเป็นนาถกรธรรมประการหนึ่งคือ ความเป็นผู้ขยันในกิจที่พึงกระทำ
ยกตัวอย่าง พระอานนท์เป็นผู้สามารถรู้พระบรมพุทธาธิบาย ตัดจีวรตามแบบอันนาในแคว้นมคธถวายไดรับการสรรเสริญว่าเป็นผู้ฉลาด รู้เนื้อความที่กล่าวโดยย่อให้พิศดารได้
ในฝ่ายของโลกศิลปยิ่งเป็นของสำคัญ เพราะความเจริญของโลกเนื่องอยู่ด้วยความเจริญของศิลป ศิลปยิ่งเจริญขึ้นเพียงใดโลกก็เจริญขึ้นเพียงนั้น พึงเห็นได้ในสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นหลากหลายพ้นที่จะพรรณนา ทั้งยังเดาไม่ได้ว่าภายหน้าจะมีหรือจะเป็นอย่างไรอีกต่อไป เหล่านี้ล้วนเป็นพยานแห่งความเจริญของศิลป
ศิลปนั้นไม่ได้นำมาเฉพาะความเจริญอย่างเดียว ย่อมนำมาทั้งความพินาศด้วย เพราะความเจริญแห่งศิลปเป็นเหตุให้มนุษย์ประดิษฐ์คิดทำเครื่องมือเครื่องใช้ในการเบียดเบียนกันและกัน ให้วิจิตรพิศดารยิ่งขึ้น พึงเห็นในคราวมหาสงคราม ชีวิตมนุษย์ถึงความพินาศไปนับไม่ถ้วนก็ด้วยอำนาจแห่งศิลป
เพราะฉะนั้นตามมติแห่งพระพุทธศาสนา จึงจัดแต่เฉพาะศิลปที่ปราศจากความเบียดเบียนต่อชีวิตผู้อื่นเท่านั้นว่าเป้นอุดมมงตล เพราะเป็นเหตุแห่งความเจริญ
อันศิลปนี้มีอยู่ในบุคคลใด และบุคคลนั้นรู้จักนำไปใช้แต่ทางที่ควร ก็ล้วนเป็นที่ตั้งแห่งความเจริยด้วยเหตุนั้น ผู้มีศิลปจึงชื่อว่าเป็นผู้มีมงคลความเจริญ
ศิลปศาสตร์ ทุกอย่าง ควรเรียนรู้
จำจากครู สั่งสม ให้มากหลาย
ศึกษาไว้ เลี้ยงตัว กันอดตาย
การมุ่งหมาย ไฝ่รู้ ก่อมงคล
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น